น้ำเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะน้ำที่เราใช้ดื่มอยู่ทุกวันจะต้องสะอาด ปลอดภัย ไร้สิ่งตกค้าง เราทุกคนจึงพยายามสรรหาเครื่องกรองน้ำที่มีระบบดีที่สุดและสะอาดที่สุด ซึ่งปัจจุบันมีหนึ่งระบบที่มีคนกล่าวถึงและนิยมใช้กันมากนั่นคือเครื่องกรองน้ำ RO
ในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงในหน้าแล้ง ทำให้น้ำดิบที่นำมาผลิตเป็นน้ำประปามีรสกร่อยหรือเค็ม ส่งผลต่อสุขภาพของคนที่เป็นโรคไต ความดันโลหิต และโรคหัวใจ ทำให้หลายคนมองหาเครื่องกรองน้ำที่มีชั้นกรองที่ละเอียด สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ ระบบ RO หรือ Reverse Osmosis System จึงเป็นคำตอบ เนื่องจากมีกระบวนการและชั้นกรองที่มีความละเอียดถึง 0.0001 ไมครอน โดยใช้ไฟฟ้าเป็นแรงดันน้ำ เพื่อให้ได้น้ำที่ความบริสุทธิ์
เครื่องกรองน้ำ RO สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.0001 ไมครอน สามารถแยกสารละลายและของแข็งที่ปนอยู่ในน้ำ รวมถึงกลิ่น เกลือ หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ทำให้น้ำมีความบริสุทธิ์ถึง 95% ขึ้นไป สำหรับชั้นกรอง RO เมมเบรนที่มีขนาดเล็กเพียง 0.0001 ไมครอน ทำให้อนุภาคของน้ำที่มีขนาด 0.00089 ไมครอนเท่านั้นสามารถผ่านชั้นกรองชั้นนี้ไปได้ ส่วนอนุภาคของสารแขวนลอยและสิ่งเจือปนจะอยู่ที่ประมาณ 0.0002 ไมครอน และแบคทีเรีย 0.5-10 ไมครอนจะถูกกรองไว้ไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้น้ำที่ผ่านการกรองเป็นน้ำบริสุทธิ์มาก หมดปัญหาน้ำเค็ม น้ำกร่อย
กระบวนการกรองของเครื่องกรองน้ำ RO
สำหรับเครื่อง RO มีกระบวนการกรองใน 4 ขั้นตอนหลัก ได้แก่
- Sediment Filter เป็นการกรองตะกอนหยาบ กำจัดสิ่งสกปรก เศษผง สิ่งแปลกปลอม หรือจุลินทรีย์ต่าง ๆ
- Pre Carbon Filter เป็นไส้กรองที่ทำจากถ่าน เพื่อลดกลิ่นคลอรีน ช่วยปรับปรุงสี กลิ่น รสของน้ำต่าง ๆ
- O. Membrane ใช้ไฟฟ้าดันน้ำผ่านตัวกรองเมมเบรนซึ่งมีขนาด 0.0001 ไมครอน จึงสามารถกรองโลหะหนัก แบคทีเรีย เชื้อโรคที่มีขนาดใหญ่กว่า 0.0001 ไมครอนออกมา มีเพียงน้ำบริสุทธิ์ที่ไหลผ่านไปได้
- Post Carbon Filter เป็นการกรองด้วยคาร์บอน เพื่อปรับรสชาติน้ำ กรอง และกำจัดกลิ่นต่าง ๆ